มีหลายคนที่เอาสิ่งที่ดีต่อตนเองไว้ท้ายสุดในรายชื่อสิ่งที่คุณต้องทำประจำวัน เช่น เอาไว้หลังการดูแลลูกเอาไว้หลังการมุ่งมั่นทำงานจนดึกดื่น หรือเอาไว้หลังการนัดสังสรรค์กับเพื่อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คนเหล่านี้กลับไม่มีเวลาแม้แต่จะแวะซื้ออาหาร ซื้อผักและผลไม้ หรือทำอาหารด้วยตนเองซึ่งเป็นสิ่งดีๆที่ควรปฏิบัติพื่อสุขภาพของคุณเอง และคนที่คุณรัก
การมุ่งให้ความสำคัญกับสิ่งอื่น ทำให้บางทีคุณอาจมองข้ามการดูแลสุขภาพของตัวเองไป ส่งผลให้เกิดความเครียดและเหนื่อยล้า การใส่ใจกับความต้องการของสุขภาพของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารดีๆ มีประโยชน์ หาเวลาไปออกกำลังกาย และสร้างสมดุลให้กับชีวิตของคุณ ล้วนแต่จะทำให้คุณมีพลังไปทำหน้าที่อื่นๆ ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ไหนก็ตาม คุณควรให้ความสำคัญกับตัวเองเพิ่มขึ้นก่อน แล้วคุณจะสามารถทำงานเพื่อตัวเองและคนอื่นได้ดียิ่งขึ้น
ดังนั้นเราจึงหาเทคนิคมช่วยคุณสร้างความสมดุล ระหว่างหน้าที่รับผิดชอบของคุณกับการหาเวลาดูแลตนเอง
1. รู้จักอาการความเครียดของคุณ: ให้คุณลองสังเกตว่าร่างกายของคุณตอบสนองต่อความเครียดอย่างไร สัญญาณของความเครียดอาจเป็นในแง่ของร่างกายเช่น อัตราหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น ปวดหัว หรือปวดท้อง หรือทางจิตใจ เช่น ความกังวล สับสน โกรธ หรือซึมเศร้า เมื่อคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ลองหาเทคนิคขจัดความเครียด อย่างเช่นการฝึกการหายใจ ทำสมาธิ เดินเล่น หรือยืดเส้นยืดสาย หรืออาจคุยกับคนรู้ใจเพื่อช่วยคลายความเครียดหรือความกังวลต่างๆ
2. หาเวลาดูแลตัวเองให้เป็นประจำ: จัดหาเวลาในตารางชีวิตประจำวันเพื่อผ่อนคลายตัวเอง และให้เหมาะสมกับภาระหน้าที่อื่นๆ ของคุณ หาเวลาอย่างน้อย 15 นาทีในแต่ละวันเพื่อทำสิ่งที่ช่วยคุณคลายเครียด อาจเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างหาเวลานอนพัก เดินเล่นในสวนหลังบ้าน หรืออ่านแมกกาซีนเล่มโปรดของคุณ
3. ทำชีวิตให้ง่ายขึ้น: เรียนรู้ที่จะปล่อยวางสิ่งที่ไม่จำเป็น เวลาที่คุณนั่งลงทำรายชื่อสิ่งที่คุณต้องทำ ลองมองดูดีๆ มีข้อไหนบ้างที่คุณสามารถตัดออกได้ หรือสามารถให้คนทำแทน หถ้ามีแล้วละก็ ลองปรับเปลี่ยนแผนดู และใส่ “เวลาส่วนตัว” ของคุณลงไปให้มากขึ้น
การมุ่งให้ความสำคัญกับสิ่งอื่น ทำให้บางทีคุณอาจมองข้ามการดูแลสุขภาพของตัวเองไป ส่งผลให้เกิดความเครียดและเหนื่อยล้า การใส่ใจกับความต้องการของสุขภาพของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารดีๆ มีประโยชน์ หาเวลาไปออกกำลังกาย และสร้างสมดุลให้กับชีวิตของคุณ ล้วนแต่จะทำให้คุณมีพลังไปทำหน้าที่อื่นๆ ได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ไหนก็ตาม คุณควรให้ความสำคัญกับตัวเองเพิ่มขึ้นก่อน แล้วคุณจะสามารถทำงานเพื่อตัวเองและคนอื่นได้ดียิ่งขึ้น
ดังนั้นเราจึงหาเทคนิคมช่วยคุณสร้างความสมดุล ระหว่างหน้าที่รับผิดชอบของคุณกับการหาเวลาดูแลตนเอง
1. รู้จักอาการความเครียดของคุณ: ให้คุณลองสังเกตว่าร่างกายของคุณตอบสนองต่อความเครียดอย่างไร สัญญาณของความเครียดอาจเป็นในแง่ของร่างกายเช่น อัตราหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น ปวดหัว หรือปวดท้อง หรือทางจิตใจ เช่น ความกังวล สับสน โกรธ หรือซึมเศร้า เมื่อคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ลองหาเทคนิคขจัดความเครียด อย่างเช่นการฝึกการหายใจ ทำสมาธิ เดินเล่น หรือยืดเส้นยืดสาย หรืออาจคุยกับคนรู้ใจเพื่อช่วยคลายความเครียดหรือความกังวลต่างๆ
2. หาเวลาดูแลตัวเองให้เป็นประจำ: จัดหาเวลาในตารางชีวิตประจำวันเพื่อผ่อนคลายตัวเอง และให้เหมาะสมกับภาระหน้าที่อื่นๆ ของคุณ หาเวลาอย่างน้อย 15 นาทีในแต่ละวันเพื่อทำสิ่งที่ช่วยคุณคลายเครียด อาจเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างหาเวลานอนพัก เดินเล่นในสวนหลังบ้าน หรืออ่านแมกกาซีนเล่มโปรดของคุณ
3. ทำชีวิตให้ง่ายขึ้น: เรียนรู้ที่จะปล่อยวางสิ่งที่ไม่จำเป็น เวลาที่คุณนั่งลงทำรายชื่อสิ่งที่คุณต้องทำ ลองมองดูดีๆ มีข้อไหนบ้างที่คุณสามารถตัดออกได้ หรือสามารถให้คนทำแทน หถ้ามีแล้วละก็ ลองปรับเปลี่ยนแผนดู และใส่ “เวลาส่วนตัว” ของคุณลงไปให้มากขึ้น